Thursday, December 13, 2007

คุณธรรมนำความรู้ :อริยสัจ4



ในทางพุทธศาสนา อริยสัจ 4 เป็นคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประการหนึ่ง ว่าด้วย ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการซึ่งเป็นรากฐานของคำสอนพระองค์ทั้งมวล กล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า เป็นความจริง 4 ประการที่ทำให้ผู้เข้าถึงกลายเป็นอริยบุคคล ความจริงทั้งสี่ประการนั้นมีดังต่อไปนี้


ทุกขสัจจ์ กล่าวว่า ความทุกข์มีอยู่จริง โดยพระพุทธองค์ตรัสว่า การเกิด ความแก่ชรา ความตาย ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ การพบสิ่งอันไม่เป็นที่รัก การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ความไม่สมปรารถนา นั้นเป็นทุกข์


สมุทัยสัจจ์ กล่าวว่า ความทุกข์ทั้งหลายนั้นมีสาเหตุ พระพุทธองค์ตรัสว่าสาเหตุของความทุกข์นั้นคือ การไปสมมติว่าธรรมชาติซึ่งที่ไม่จีรังยั่งยืนนั้นมีตัวตน มีแก่นสาร และเที่ยงแท้ ทำให้เกิดตัณหา คือความอยากอันขัดแย้งกับความเป็นจริงที่ว่าทุกสิ่งไม่สามารถให้ความพึงพอใจได้อย่างเที่ยงแท้ เมื่อธรรมชาติไม่เป็นไปตามที่ต้องการก็เกิดความทุกข์

นิโรธสัจจ์ กล่าวว่า ความดับทุกข์นั้นมีอยู่จริง และความดับทุกนั้นคือภาวะที่ไม่มีความยึดติด ไม่มีความอยาก มีปัญญาเข้าใจว่าสิ่งทั้งหลายเป็นทุกข์ และไม่นำยึดว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นตัวเป็นตน อันจะทำให้เป็นสาเหตุแห่งความไม่สบายกายไม่สบายใจ จึงเป็นอิสระจากทุกข์ทั้งมวล ภาวะนี้เรียกได้อีกอย่างว่านิพพาน

มัคคสัจจ์ กล่าวว่า วิธีปฏิบัติให้บรรลุถึงความดับทุกข์นั้นมีอยู่จริง คือ การรักษาคำพูด การกระทำ การหาเลี้ยงชีพ ความพยายาม สติ สมาธิ ความเห็น และความคิด ให้ถูกต้องดีงามและสอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งวิธีการปฏิบัตินี้สรุปได้เป็นหลักคำสอนที่ชื่อว่า มรรค 8 หรือ มรรคมีองค์แปด (ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ)





การศึกษาย่อมเป็นปราการด่านสำคัญที่จะปลูกฝัง และสร้างจิตสำนึกด้านคุณธรรมควบคู่ไปกับที่นักเรียนนักศึกษาจีนได้รับการปลูกฝังให้มีความเป็นชาตินิยม คือรัก และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของชาติจีนมาก พวกเขาจะทำทุกอย่างให้ประเทศจีนเจริญ เพราะจีนเป็นประเทศใหญ่ ทรัพยากรในการตอบสนองความต้องการถูกจำกัดด้วยระบบการปกครอง เพื่อกระจายความเท่าเทียม และลดช่องว่างระหว่างเศรษฐีกับยาจก แต่ก็เปิดโอกาสให้เยาวชนจีนมีเสรีภาพมากในด้านการศึกษา โดยเฉพาะเมื่อพบว่าตนเองมีศักยภาพ และความสนใจในที่จะเรียนในด้านใดที่ดีแล้ว เขาจะส่งเสริมกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะด้านกีฬา ที่จีนจะคว้าเหรียญทองในกีฬาเกือบทุกประเทศในการแข่งขันระดับนานาชาติเป็นประจำ

นอกจากนี้ ยังมีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเมื่อหลายสิบปีก่อนจีนนั้น ยังล้าหลังกว่าไทยเยอะมาก แต่ปัจจุบันจีนก้าวหน้าไปมากแล้ว ทั้งนี้ เพราะการเปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษาได้ค้นคว้าแนวทางที่ตนชอบ และสนใจอย่างจริงจัง และรัฐพร้อมสนับสนุนให้ผู้ที่สนใจในสาขาวิชานั้นก้าวไปสู่ความเป็นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการ วิชาชีพ หรือวิชาชีวิต


ทำให้พวกเขาเรียนรู้ได้อย่างมีความสุข มีความกตัญญูต่อชาติบ้านเมืองมากขึ้น และพร้อมจะต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของประเทศชาติอย่างแท้จริง หากจะมีการปฏิรูปการศึกษา สิ่งที่ดีที่สุดคือนักเรียนนักศึกษาได้เรียนในสิ่งที่รัก และทำเต็มที่ให้ดีที่สุด โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติในการแข่งขันกับนานาประเทศกันก็จะดีกว่าให้พวกเขาต้องมากลุ้มกังวลกับค่าเทอมที่จะปรับตัวสูงขึ้น การแข่งขันกันสอบเข้าโรงเรียนที่ดี มหาวิทยาลัยที่แทนที่จะเป็นคณะ หรือวิชาที่ชอบ เพื่อจะได้พัฒนาศักยภาพของตนได้อย่างเต็มที่ครับ



No comments: