Friday, November 30, 2007

LET'S TALK ABOUT '' ROSE '' ^^

ROSE^0^




กุหลาบ มีชื่อวิทยาศาสตร์ Rosa hybrids ชื่อสามัญคือ กุหลาบ หรือ rose อยู่ในวงศ์: Rosaceae มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย
พันธุ์กุหลามที่ใช้ปลูกเป็นไม้มงคล



1. พันธุ์สีขาว ได้แก่ - Misty Morn - Blanche Mallerine - White Christmas
2. พันธุ์ดอกสีเหลือง ได้แก่ - King's Ransom - Golden Master Piece
3. พันธุ์ดอกสีแดง ได้แก่ - Christian Dior - Swarthmore - Scarlet Knight
4. พันธุ์ดอกสีชมพู - Bel Ange - Queen Elizabeth
5. พันธุ์ดอกสีแสด ได้แก่ - Super Star - Tanya
6. พันธุ์ดอกสีม่วง - Blue Moon




ลักษณะทั่วไปกุหลาบเป็นพรรณไม้ยืนต้น เป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นมีความยาวประมาณ 30-200 เซนติเมตร ลำต้นเตี้ยและสูง มีหนามหรือไม่มี แล้วแต่ชนิดพันธุ์ลำต้นสีเขียวเมื่อแก่จะเป็น​สีน้ำตาลแตกกิ่งก้านมารอบต้นใบเป็นใบรวมแตกออ​กจากกิ่งก้านก้านใบจะมีหูใบติด อยู่ด้วยลักษณะใบโคนใบมนปลายใบแหลมขอบใบมีหยั​กเล็กน้อยตัวใบนิ่มมีสีเขียวใบจะออกจากก้านใบ​เป็นคู่ขนาดความกว้างของ ใบประมาณ 2- 4 เซนติเมตรยาวประมาณ3 - 5เซนติเมตรดอกเป็นดอกเดี่ยวมีก้านดอกยาวแตกออ​กจากปลายกิ่งหรือง่ามใบที่กิ่ง ลักษณะดอกเป็นกลีบเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆประมา​ณ4-6 ชั้นดอกมีกลีบ 5-15 กลีบขอบดอกเรียบตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้และตัว​เมีย อยู่รวมกันดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ดอกบานมี ความกว้างประมาณ 2-6 เซนติเมตรลักษณะของลำต้นใบดอกแตกต่างกันไปตาม​ชนิด พันธุ์ การเป็นมงคลคนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นก​ุหลาบไว้ประจำบ้านจะทำให้คนในบ้านมีคุณค่าแห่​งชีวิตที่สูงเพราะกุหลาบได้รับการยกย่อง ให้เป็นราชินีแห่งอุทยาน(Queen of the Garden)เนื่องจากดอกมีรูปร่างสีสรรที่สวยงามน​อกจากนี้คนไทยโบราณยังเชื่ออีกว่าบ้าน ใดปลูกต้นกุหลาบไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความส​ง่าภาคภูมิเพราะกุหลาบดอกใหญ่ขณะชูช่อบานนั้น​ดูโดดเด่นเห็นเป็นสง่าแก่บุค คลทั่วไปตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูกเพื่อเป็นสิ​ริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นกุหลาบไว้ทางทิศตะวันออก ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ เพราะโบราณเชื่อว่า การปลูกไม้เอาประโยชน์ทางดอกให้ปลูกในวันพุธ นอกจากนี้ถ้าจะให้เป็นสิริมงคลแก่ตนเองผู้ปลู​กควรเป็ฯสุภาพสตรี เพราะกุหลาบเป็นราชินีแห่งอุทยาน ดังนั้นชื่อจึงเหมาะสมอย่างยิ่งกับสุภาพสตรี



การปลูกการปลูกแบ่งเป็น 2 วิธี
1. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณหน้าบ้านเ​พื่อความโดดเด่น และสว่างามของตนเอง ขนาหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก
2. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเร​ือน ควรใช้กระถางทรงสูงขนาด 10-16 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ขุยมะพร้าวหรือแกลบผุ:ดินร่วนอัตราอย่างละ1ส่​วนผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถางปีละครั้ง เพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทด แทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป และเพื่อความเหมาะสมของการเจริญเติบโตของทรงพ​ุ่มด้วย การดูแลรักษากุหลาบ กล้วยไม้
แสง ต้องการแสงแดดจัดกลางแจ้ง

น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลางควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง
ดิน ดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ร่วนเหนียว มีความชื้นปานกลาง ระบายน้ำได้ดี
ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก อัตรา1-2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ 1-2 เดือน/ครั้ง
การขยายพันธ์ การปักชำ การตอน การทาบกิ่ง การติดตา
วิธีที่นิยมและได้ผลดี การปักชำ การติดตา และการตอน
โรค โรคใบจุด
อาการ มีจุดสีดำบนใบ ทำให้ใบเหลือง และร่วงในเวลาต่อมา
การป้องกัน ควรฉีดยาป้องกันก่อนถึงฤดูฝน เพราะเชื้อราชนิดนี้ระบาดในฤดูฝน ใช้ยาคูปราวิท ไดเทนเอ็ม -45 อัตราและวิธีใช้ระบุตามฉลาก
การรักษา ใช้ยาแคปแทน เบนเลท อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
แมลงศัตรู หนอนเจาะดอก
อาการ กลีบดอกเป็นแผล เป็นรู ทำให้ดอกแคระแกร็น และเสียรูปทรง
การป้องกัน รักษาความสะอาดบริเวณแปลงปลูกฉีดยาป้องกันขณะ​กุหลาบเดิดดอกใหม่ ในช่วงฤดูหนาว ใช้ยาดิลดริน อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
การกำจัด ใช้ยาดิลดริน ฟอสดริน อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก

No comments: